วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556

รับของโจร

รับของโจร

ลักษณะการกระทำอย่างไร เป็นความผิดฐานรับของโจร พอสรุปได้ดังนี้
1. ความผิดฐานรับของโจร การรับทรัพย์ไว้จะต้องกระทำภายหลังที่ได้กระทำอันเป็นเหตุให้ได้ทรัพย์นั้นมาสำเร็จแล้ว มิฉะนั้นอาจเป็นการร่วมกันหรือสนับสนุนในความผิดนั้น
2. ทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำผิดนั้น ต้องเป็นทรัพย์ที่ได้กระทำผิดโดยตรง โดยตัวทรัพย์นั้นยังไม่ถูกแปรสภาพ ถ้าตัวทรัพย์นั้นถูกแปรสภาพเสียแล้วหรือรับเงินที่ได้จากการจำหน่ายของอันได้มาโดยการกระทำผิด ผู้ที่รับไว้ย่อมไม่มีความผิดฐานรับของโจร แม้จะรู้ก็ตาม
3. ทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำผิดนั้น ต้องเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์โดยตรง ไม่ใช่เพราะไม่ได้รับอนุญาตและเฉพาะความผิด 8 อย่างนั้นเท่านั้น
4. ความผิดฐานรับของโจร ผู้ที่กระทำความผิดอันเป็นเหตุให้ได้ทรัพย์นั้นมา เช่นผู้ทำการลักทรัพย์ แม้ภายหลังจะรับทรัพย์ที่ถูกลักมานั้นไว้อีก ก็ไม่ผิดฐานรับของโจร
5. ความผิดรับของโจร อาจมีการส่งมอบทรัพย์ นั้นต่อไปหลายๆคนก็ได้ ถ้าผู้รับไว้รู้ว่าเป็นของที่ได้มาโดยการกระทำผิดดังกล่าวก็ผิดฐานรับของโจร
6. ความผิดรับของโจร ผู้กระทำต้องรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมายในขณะที่รับทรัพย์นั้นไว้ ถ้ารู้ภายหลังจากที่ได้รับของไว้แล้วไม่ผิด แต่ไม่จำเป็นต้องถึงกับต้องรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยการกระทำผิดกฏหมายใด มาตราใด
7. เจตนาเป็นเรื่องภายในของผู้กระทำ จึงต้องถือหลักกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา คือต้องดูการกระทำของผู้รับของโจรและข้อเท็จจริงอื่นประกอบ เช่น ให้การไม่อยู่กับร่องกับรอยกลับไปกลับมา ซุกซ่อนปกปิดทรัพย์ แสดงกิริยาพิรุธวิ่งหนี รับซื้อไว้ในเวลากลางคืน ซื้อโดยราคาถูกกว่าปกติมาก ซื้อจากเด็กหรือคนขอทานหรือบุคคลที่ไม่อยู่ในฐานะที่จะขายของชนิดนั้นๆให้ได้ เป็นต้น ส่วนการซื้อขายโดยเปิดเผยหรือมีหนังสือสัญญาเป็นหลักฐานหรือนำออกมาใช้โดยเปิดเผย แสดงว่าผู้รับไว้ไม่ทราบว่าทรัพย์นั้นเป็นของคนร้าย ไม่ผิดฐานรับของโจร
8. ความผิดฐานรับของโจร ต้องนำสืบให้ได้ความว่า
- ทรัพย์นั้นได้ถูกเอาไปโดยการกระทำผิดอย่างหนึ่งอย่างใดใน 8 อย่างนั้น
- ของกลางที่จับได้จากจำเลยนั้น เป็นของเจ้าของทรัพย์ที่ได้ไปตามข้อ แรก
- โดยจำเลยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยการกระทำผิด


ปอ. มาตรา ๓๕๗
            ผู้ใด ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือ รับไว้โดยประการใด ซึ่ง ทรัพย์ อันได้มา โดยการกระทำความผิด ถ้า ความผิดนั้น เข้าลักษณะ ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก หรือ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ผู้นั้น กระทำความผิด ฐานรับของโจร ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน ห้าปี หรือ ปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
            ถ้า การกระทำความผิด ฐานรับของโจร นั้น ได้กระทำ เพื่อค้ากำไร หรือ ได้กระทำต่อ ทรัพย์ อันได้มาโดยการ ลักทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ (๑๐) ชิงทรัพย์ หรือ ปล้นทรัพย์ ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ หกเดือน ถึง สิบปี และ ปรับตั้งแต่ หนึ่งพันบาท ถึง สองหมื่นบาท
            ถ้า การกระทำความผิด ฐานรับของโจร นั้น ได้กระทำต่อ ทรัพย์ อันได้มาโดย การลักทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ   การชิงทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๙ ทวิ หรือ การปล้นทรัพย์ตามมาตรา ๓๔๐ ทวิ ผู้กระทำ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ ห้าปี ถึง สิบห้าปี และ ปรับตั้งแต่ หนึ่งหมื่นบาท ถึง สามหมื่นบาท

ไม่มีความคิดเห็น: